เตาเผาพื้นบ้านและการคุมไฟ
ในปัจจุบันนี้การเผาเครื่องปั้นดินเผา
ได้มีการพัฒนาเตาเผาเครื่องปั้นดินเผาไปอย่างมาก
โดยเฉพาะเตาเผามักใช้ไฟฟ้าหรือแก๊สเป็นสำคัญ ดังนั้นข้อผิดพลาดในการเผา
มักจะเกิดขึ้นน้อยที่สุด เพราะการควบคุมไฟเวลาเผาเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ แต่ในอดีตเตาเผามักจะใช้เตาเผาแบบพื้นบ้าน
การควบคุมไฟและควบคุมอุณหภูมิในการเผานั้นมีความยากลำบากมาก
เพราะในอดีตนั้นไม่มีเครื่องมือที่ใช้วัดอุณหภูมิจึงทำให้การควบคุมไฟและควบคุมอุณหภูมิเป็นไปอย่างลำบากมากและทุลักทุเล
ทั้งนี้ก็เพราะอุณหภูมิในการเผาดิบและเคลือบมักสูงต่ำไม่คงที่แน่นอน
ซึ่งอาจทำให้ผลิตภัณฑ์เกิดความเสียหายได้
ดังนั้นในการในเผาดิบและเผาเคลือบจึงต้องอาศัยความชำนาญเป็นอย่างมาก
ที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาดังกล่าวแทบจะไม่มีการผิดพลาดเลย
หรือถ้าผิดพลาดก็น้อยที่สุด
การควบคุมไฟและเตาเผาพื้นบ้าน
การควบคุมไฟ
หมายถึง หน้าที่กำกับดูแลเปลวความร้อนที่เกิดจากการเผาไหม้
ดังนั้นกรรมวิธีในการเผาและการควบคุมไฟของเตาเผาพื้นบ้านจึงมีความยุ่งยากและมีความละเอียดลออมากพอสมควร
สำหรับการเผาผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาซึ่งเป็นกรรมวิธีหลังจากการปั้นและตกแต่งแล้ว
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1.
การเผาดินเป็นการเผาครั้งแรก
คือ การให้ความร้อนแก่ภาชนะนั้น โดยให้อุณหภูมิความร้อน ตั้งแต่ 400
– 900 ซํ ซึ่งใช้เวลาในการเผาดิบทั้งหมด 8-9
ชั่วโมง ผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นจึงจะถึงจุดสุกตัวพอดี ทิ้งไว้ประมาณ 6-8 ชั่วโมง จึงค่อยเปิดเอาผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาออกจากเตาได้
2.
การเผาเคลือบ หมายถึง การเผาให้น้ำเคลือบที่ชุบบนผลิตภัณฑ์ละลายเป็นเนื้อเดียวกันมีความมันแวววาว
บางชนิดเป็นเคลือบด้านผิวเรียบมีความแข็งสามารถต้านทานต่อกรดและด่างได้เป็นอย่างดี
การเผาเคลือบจะต้องเผาให้ได้อุณหภูมิตามกำหนดของน้ำเคลือบแต่ละชนิด ไม่เช่นนั้นการเผาจะเกิดการเสียหายได้